วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บทที่ 9 อาการมาครบสูตร

หลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาลศิริราชมาอยู่เชียงใหม่ อาการต่างๆแปลกๆที่เคยเล่าให้ฟัง มันกลับมาจนครบ ผมคิดว่าแปลกจริง ตอนนั้นผมตัดสินใจแล้วว่าจะหยุดยาไปเลย เป็นอะไรก็เป็น สอบเสร็จคงหาย ตอนนั้นเป็ช่วงก่อนสอบไม่นาน สภาพผมแทบดูไม่ได้ หนังตาแทบจะปิด มองเห็นภาพซ้อน ไปตรวจกับหมอตาก็ว่าตาแห้ง คงจะเกิดจากดูกล้องจุลทรรศ์มากกเกินไป ได้น้ำตาเทียมมาหยอด ผมคิดในใจว่า ตาแห้งมันทำเห็นภาพซ้อนได้เลยหรือนี่ อาการเห็นภาพซ้อนบางที่เป็นมากจนผมอ่านหนังสือไม่ได้เป็นสัปดาห์ยิ่งทำให้ผมเครียด นอกจากนั้นก็ยังพูดไม่ชัดมากขึ้น กลืนอาหารก็ลำบาก เดินไปก็เริ่มรู้สึกว่าเหนื่อยง่าย ผมร่วงเริ่มจะร่วงมากขึ้นเรื่อยๆ ไหนจะแผลในปากที่ไม่มีแววว่าจะหาย
ที่เล่ามามันเป็นมาก แต่แปลกที่ตอนนั้นผมไม่สนใจอาการพวกนี้เลย ผมคิดว่าคงจะเกิดจากความเครียด ถ้าใครได้ลองไปถามแพทย์ที่เป็นแพทย์ฌฉพาะทางก็จะรู้ว่าการสอบเอาวุฒิบัติเพื่อเป็นแพทย์เฉพาะทางนั้นมันเครียดแค่ไหน เพราะเราต้องรู้จริงในสาขาที่เราจะจบ ต้องอ่านตำราภาษาอังกฤษเป็นเล่มๆแล้วต้องยัดใส่ไปในสมองให้หมด ใครไม่เครียดก็แปลก ตอนนั้นผมไม่สนใจอาการเหล่านั้นเลย คิดเสียว่า สอบเสร็จคงหาย
ยิ่งใกล้วันสอบ ผมที่หัวผมก็เริ่มจะจัดทรงไม่ได้เพราะมันร่วงจนแทบจะไม่เหลือ ตาก็บางทีก็เห็นภพซ้อน บางทีก็ดี นอกนั้นยังรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยง่ายมากขึ้นเรื่อยๆ เดินไกลก็จะรู้สึกเหนื่อยต้องนั่งพัก จริงๆแล้วผมก็กังวลเหมือนกันเกี่ยวกับอาการที่หาคำตอบไม่ได้แบบนี้ แต่ตอนนั้นยอมรับว่ากังวลเรื่องสอบมากกว่า คิดว่าสอบเสร็จแล้วค่อยว่ากัน ผมของผมร่วงมากขึ้น ยาทาก็เอาไม่อยู่ ตื่นมาตอนเช้าจะเห็นกองผมเต็มหมอนเลย สุดท้ายผมต้องไปโกนหัวเพราะมันจัดทรงไม่ได้แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น