วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บทที่ 11 การสอบที่ทรมาน (2)

ผมมาถึงสนามสอบที่ศิรฺราชด้วยสภาพร่างกายที่ไม่ปกติ แค่การแบกกระเป๋าไปยังหอพักก็เหนื่อยจนต้องนั่งพักหลายครั้ง ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เพื่อนๆหลายคนเริ่มทักผมว่าผมมีอาการแปลก ตลอดเวลาที่ผมไปอยู่ที่สนามสอบที่ศิริราชผมแทบจะไม่ได้กินอาหารเลย เพราะกินอะไรไปก็กลืนไม่ได้ แม้แต่อยู่เฉยๆยังกลืนน้ำลายตัวเองไม่ได้
วันสอบวันแรกผ่านไปได้อย่างไม่ค่อยมีปัญหาเพราะเป็นเพียงการสอบข้อเขียน มีแต่คนทักว่าทำไมผมถึงโกนหัวแล้วทำไมจึงพูดไม่ชัด ผมก็ตอบไม่ได้เหมือยกันว่าทำไม
วันที่สองของการสอบเริ่มเป็นการสอบที่ต้องใช้ตามากขึ้นคือต้องสอบมองกล้องจุลทรรศน์ ปรากฎว่าอุปสรรค์เริ่มเกิดขึ้นคือ ผมเห็นภาพซ้อนและหนังตา 1 ข้างมันปิด ทำให้ผมดูลำบากมาก ต้องเอามือปิดตา 1 ตาเพื่อไม่ให้ภาพมันซ้อน เป็นการสอบที่ไม่มั่นใจมากเลยเพราะขนาดคนตาดีๆยังไม่ค่อยจะได้แล้วนี่ผมดุด้วยตาข้างเดียว จะผ่านหรือเปล่าก้ไม่รุ้ หลังสอบในวันนั้นผมกลับห้องพักมาแบบท้อแท้เหลือเกิน คิดว่าคงจะไม่ผ่านแน่นอน ผมเริ่มคิดถึงตัวเองมากขึ้น ตอนนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าทำไมเราไม่สนใจตัวเองเลย คิดว่าพรุ่งสอบอีกครึ่งวัน ไม่ว่าผลจะเป้นอย่างไรผมจะต้องไปรักษาตัวเองก่อน
การสอบวันสุดท้ายเป็นการสอบปากเปล่า คือเข้าไปในห้องแล้วจะมีอาจารย์นั่งอยู่ในห้องซัก 3-4 คนแล้วจะมีโจทย์ให้เราอ่านหรือให้เรารายงานผู้ป่วยที่เราเคยตรวจ (ศพ) หลังจากนั้นอาจารย์ก็จะรุมยำรุมถามเรา ปกติเป็นการสอบที่เครียดแล้วก็กดดันมาก ก่อนสอบผมสอบเอารายงานการตรวจ(ศพ)ผู้ป่วยมาลองพูดดู แต่ก็มีอุปสรรค์คือผมไม่สามารถจะพูดให้ชัดได้ และเป็นมากจนถึงฟังแทบจะไม่รู้เรื่องเลย
วันสอบวันสุดท้าย ผมได้เดินไปหาอาจารย์ที่คุมสอบแล้วบอกอาจารย์ว่าผมไม่สบาย พูดไม่ชัดผมจะสอบได้หรือเปล่า ผมว่าอาจารย์คงงงแต่ก็บอกว่าถ้าพอพูดได้ก็ให้สอบไปก่อน
การสอบปากเปล่าของผมนั้นเป็นการที่ไม่เครียดเลยสำหรับผม เพราะผมเครียดเรื่องความเจ็บป่วยมากกว่า ผมแทบจะไม่สนใจเลยว่าผมจะตอบได้หรือไม่ได้ คิดแค่สอบๆให้มันจบๆไป ซึ่งปรากฎว่าการที่ผมไม่ประหม่าทำให้ผมตอบคำถามได้ดีกว่าที่คิดแฮะ ถึงแม้ว่าจะพูดไม่ชัด และอาจจะได้คะแนนสงสารด้วยเพราะผมแอบเห็นอาจารย์หลายท่าน ลุ้นๆตอบผมตอบคำถามด้วย
หลังสอบเสร็จผมรู้สึกโล่มากๆ ผมมาลุ้นฟังสอบ ผมแทบจะไม่สนใจเลยว่าจะสอบผ่านไหม แต่ที่แน่ๆคืออาการประหลาดต่างๆไม่หายไป แสดงว่าผมคงมีโรคอะไรแน่นอนเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น