วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555

บทที่ 18 หลังผ่าตัด

ผมต้องนอนอยู่ใน sub ICU เกือบ 2 วันเนื่องจากปัญหาเรื่องปัสสาวะผมออกน้อย
ท่านผู้อ่านคงงงว่าปัสสาวะออกน้อยจะทำให้มีปัญหาได้อย่างไร ในการดูแลคนไข้วิกฤตนั้นการที่จะดูว่าคนไข้ช็อคหรือเปล่า สิ่งหนึ่งที่จะช่วยบอกได้คือการทำงานของไต ในภาวะปกตินั้นไตคนเราต้องทำงานตลอดเวลา มันจะสร้างปัสสาวะออกมาตลอดอย่างน้อยชั่วโมงละ 25-30 ซีซี ถ้าน้อยกว่านี้แสดงว่าการทำงานของไตก็มีปัญหา อาจจะเป็นอาการแรกของคนที่กำลังจะช็อค
ผมค่อนข้างจะรู้สึกตัวดีและรู้สึกปากคอแห้ง หิวน้ำมากๆ(ตอนนั้นยังงดน้ำและอาหารอยู่) ผมจึงคิดว่าผมคงขาดน้ำ แต่แพทย์ประจำบ้านที่ดูแลผมตอนนั้นประเมิณว่าผมได้น้ำเยอะแล้วไม่ขาดแน่นอน ผมโดนฉีดยาขับปัสสาวะไปไม่รู้กี่ครั้งเพื่อกระตุ้นการทำงานของไต จนเข้าวันที่ 2 ของการนอนใน sub ICU จึงสามารถดื่มน้ำได้ปรากฎว่าพอผมดื่มน้ำไปเท่านั้น อาการคอแห้งหายไปปัสสาวะก็ออกตามปกติ ก็แสดงว่าผมขาดน้ำจริงๆ หลังจากไม่มีปัญหาแล้วผมจึงได้ย้ายเข้าห้องพิเศษ
การที่ผมได้นอนอยู่ใน sub ICU นั้นมีอารมณ์ความรู้สึกหลายอย่างเหลือเกิน ตอนนั้นผมแทบจะเป็นคนไข้คนเดี๋ยวที่รู้สึกตัวในขณะที่คนไข้คนอื่นๆเค้าไม่รู้สึกตัวเลย ผมซึ่งนอนลืมตาอยู่ได้มองเห็นคนวิ่งไปวิ่งใน subICU เมื่อคนไข้เตียงข้างๆอาการแย่ ผมรู้สึกเหมือนกับโดนตัดขาดจาดโรคภายนอก กว่าที่พ่อแม่จะเข้ามาเยี่ยมต้องเป็นเวลา ทำให้เวลานอนอยู่คนเดียวู้สึกอึดอัดมาก นอกจากนั้นก่อนออกจาก subICU ก็โชคร้ายอีกเมื่อพยาบาลที่ทำความสะอาดทำสายให้ยาแก้ปวดทางไขสันหลังหลุดอีก ทำให้อาการปวดแผลผ่าตัดกลับมาอีกครั้ง

บทที่ 17 ผ่าตัดครั้งแรกในชีวิต

ผมตื่นขึ้นมาหลังจากที่หลับไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เนื่องจากผมได้ยินเสียงหมอดมยา
"อภิชาติ เธอเป็น vascular tumor น่ะ น่าจะเป็น benign แต่ถ้าเป็น malignant ก็ไม่น่าเป็นห่วงเพราะเอาก้อนมันออกไปหมดแล้ว" นี่คือประโยคแรกที่ผมได้ยิน (แปล: หมอดมยาบอกกับผมว่าเป็นเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง แต่ถ้าเป็นมะเร็งก็เอาก้อนออกมาหมดแล้ว ไม่น่าเป็นห่วง)
หลังจากที่ผมตื่นมา สิ่งแรกที่ผมดีใจคือ ผมไม่มีท่อช่วยหายใจอยู่ที่ปาก แสดงว่าผมหายใจเองได้ โล่งใจไปเปาะแรก
ต่อมาก็คือผลเบื้องต้นก้อนนั้นไม่ใช่ข่าวร้าย (ที่รู้เลยเพราะ อาจารย์ภาควิชาพยาธิขึ้นมาเอาก้อนของผมไปตรวจแบบสดๆเลย ต้องขอขอบคุณอาจารย์ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกท่านด้วยครับ)
ต่อมาผมเริ่มเจ็บแผลมาก อาจารย์หมอดมยาจึงได้เพิ่มยาให้ อาการเจ็บแผลก็หายไป ผมพยายามคลำแผลที่หน้าท้องว่าขนาดไหน ปรากฎว่าเป็นแผลยาวมากๆ จากอีกฝั่งของท้องไปอีกฝั่งเลย แผลยาวประมาณ 25 เซนติเมตร สิ่งที่ดีอีกอย่างคือไม่มีท่อระบายเลือดต่อออกมาแสดงว่าการผ่าตัดไม่มีการเสียเลือดมาก ตอนนั้นผมรู้สึกว่าลำไส้ผมเริ่มทำงานเพราะได้ยินเสียงท้องร้อง แสดงว่าการผ่าตัดไม่ได้ไปยุ่งกับลำไส้ ถือว่าเป็นข่าวดีอีกหนึ่งข่าว
เวลานั้นประมาณ บ่าย 3 โมง ถ้าจำไม่ผิดผมเข้าห้องผ่าตัดประมาณ 9 โมงเช้า แสดงว่าการผ่าตัดของผมก็นานพอสมควร ผมโดนย้ายไปที่ sub ICU(หอผู้ป่วยที่มีลักษณะกึ่ง ICU) เพื่อเฝ้าดูการหายใจอย่างใกล้ชิด ตอนแรกผมคิดว่าจะรอดูอาการซัก 1-2 ชั่วโมงแล้วจะเข้าห้องพิเศษแต่สุดท้ายก็ต้องนอนที่ sub ICU ทั้งคืน กว่าที่พ่อกับแม่จะตามมาพบก็เกือบจะหมดเวลาเยี่ยม สรุปว่าผมปลอดภัยจากการผ่าตัดเรียบร้อย แต่ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร