วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

บทที่ 23 การผ่าตัดครั้งที่สอง

การผ่าตัดครั้งที่สองนี้ผมผ่าตัดที่ โรงพยาบาลที่ผมทำงานอยู่เนื่องจากว่ามีแพทย์ทางศัลยกรรมทรวงอกอยู่และการผ่าตัดก็ไม่ใช่การผ่าตัดที่ยากนักเพียงแค่ตั้งตัดกระดูกหน้าอกเข้าไป หรือพูดง่ายๆว่า แหกอก มันทำให้รู้สึกสยองมากกว่าการที่ต้องผ่าตัดท้อง
การผ่าครั้งที่ตอนแรกที่ผมเองกลัวคือกลัวการที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจหลังจากผ่าตัด นอกจากนั้นจากที่เคยได้คุยกับเพื่อนๆหมอบางคนซึ่งเข้าได้กล่าวถึงการผ่าตัดชนิดนี้ไว้น่ากลัวมากจนผมกังวล
กลัวไปหมด
หลังผ่าแล้วจะหายใจได้ไหม หายใจเข้าออกจะเจ็บแผลขนาดไหน
ตอนที่มีท่อช่วยหายใจอยู่ในคอจะรู้สึกอย่างไร แค่คิดก็อึดอัดมากแล้ว
3-4 วันก่อนผ่าตัด ผมกลัวจนกลายเป็นเครียดไปเลย นอนไม่หลับ กังวลไปหมด จนรู้สึกว่ากังวลกว่าการผ่าตัดครั้งแรกอีก
จนถึงวันผ่าตัด ผมเข้าผ่าตัดช่วงบ่ายของวันหนึ่ง ผมสลบไปในห้องผ่าตัดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้อีกที่คืออยู่ใน ICU
ผมเหมือนค่อยๆคืนสติ แล้วพบว่าตัวเองกำลังโดนพยาบาลรุมตัวผมอยู่ ผมเห็นทั้งหมอดมยา หมออายุรกรรม และหมอศัลยกรรม ดูผมอยู่ ที่แน่ๆ มีท่ออยู่ในปาก พอผมเริ่มรู้สึกตัวมากขึ้น ก็รู้สึกว่าไม่อึดอัดเท่าที่เคยกลัวแต่พอผมพยายามจะหายใจเข้า ผมต้องหยุดหายใจทันที เพราะผมเจ็บที่แผลมาก ใช่แล้ว แผลที่หน้าอก เจ็บสุดๆ แต่ก็ยังเจ็บน้อยกว่าที่จินตนาการไว้
ด้วยที่ผมเป็นหมอ ผมเลยรู้ว่าตอนนี้เค้ากำลังทดสอบการหายใจของผมว่าผมจะหายใจเองโดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรือเปล่า ผมพยายามหายใจเต็มที่เพื่อใช้ค่าปริมาณอากาศที่ผมหายใจเข้าออกมากๆ (tidal volume) ถึงแม้ว่าจะเจ็บแผลมากก็ตาม จนผมได้ยินพี่หมอพูดกันว่า เอา tube ออกได้  ก็คือหมายถึงให้เอาท่อช่วยหายใจออกได้ ผมดีใจมาก
ช่วงก่อนที่จะเอาท่อช่วยหายใจออกนั้น เค้าต้องดูดเสมหะก่อน หรือที่เค้าเรียกว่า suction secretion คือการใช้สายยางเล็กๆต่อเข้ากับเครื่องดูดใส่เข้าไปในหลอดลมของเราเพื่อดูดเอาเสมหะออกมา ผมเคยได้ยินคนที่เคยโดนใส่ท่อช่วยหายใจเล่าว่าตอน suction secretion  นี่เจ็บสุดๆก็ได้มารู้เดียวนี้ นี่เอง เจ็บสุดๆเลยครับ ในคอของเรา เวลาที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปร่างกายเราจะมีกลไกขย้อนเอาสิ่งนี้นออก เรียกว่า gag reflex พอผมโดน suction secretion แล้วมี gag reflex นี้เจ็บสุดๆเลย เพราะทั้งอกแล้วก็หน้าอกมันจะเด้นขึ้นมาตามแรงของ reflex ผมจะเจ็บที่แผลมาก แล้วก่อนที่เค้าใส่สายยางเข้าไปนั้นเค้าจะบีบอุปกรณ์ช่วยหายใจอัดลมเข้าไปในปอดเราก่อนเพื่อไม่ให้เราขาดอากาศช่วงที่กำลัง suction secretion ตอนที่เค้าบีบนี้เจ็บสุดๆ เหมือนโดนอัดอากาศเข้าไปเต็มปอด อกก็จะขยาย เจ็บแผลจนน้ำตาไหลเลย จากเหตุการณ์นี้ทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกคนไข้ได้อย่างดี
หลังจากที่เอาท่อช่วยหายใจออก ผมอยู่ใน ICU อีก 1 วันก็ได้ย้ายออกมาห้องพิเศษเพราะผมไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไร ผมค่อยๆพื้นตัวและรู้สึกว่าไม่เจ็บแผลอย่างที่คิด เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดครั้งแรกด้วยซ้ำ
2 วันต่อมาผมก็เอาท่อระบายเลือดที่หน้าอกออก (สายICD) เพิ่งรู้ว่าแค่การเอาสาย ICD ออกก็เจ็บสุดๆ หลังเอาออกหายใจเจ็บแสบไปหลายชั่วโมงเลยกว่าจะหาย
ผมนอนอยู่ในห้องพิเศษเจ็ดวันก็ออกจาก รพ.มาพักที่ห้องพักได้ สรุป การผผ่าตัดหน้าอก thymectomy ไม่เจ็บทรมานอย่างที่กลัว
ตอนนี้ผมยังต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน และยารักษาอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงไปอีก หมอได้บอกผมว่า ผมต้องกินยากดภูมิคุ้มกันอีก 2 ปี ถ้าไม่มีอาการขึ้นมาอีกก็หยุดได้ ส่วนยารักษาโรคความดันโลหิตสูงคงต้องกินตลอดชีวิต
ลืมบอก ผมชิ้นเนื้อไทมัสของผมปกติครับ ไม่มีอะไรร้ายแรง

4 ความคิดเห็น:

  1. ทานยา 2 ปีแล้ว remission เลยรึป่าวคะ หรือยังทานอยู่เรื่อยมา

    ตอบลบ
  2. remission แล้วครับ (ขอโทษทีครับที่ตอบช้า เพราะเพิ่งเห็น)

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ15 กรกฎาคม 2560 เวลา 10:23

    คอนนี้อาการเปนอย่างไรบ้างคะ

    ตอบลบ